
Q & A
คำถาม
DTI คืออะไร?
คำตอบ
DTI ย่อมาจาก Digital Temperature Indicator ซึ่งเป็นสติกเกอร์อัจฉริยะที่ทำหน้าที่ติดตามอุณหภูมิวิกฤต และสามารถแสดงผลทั้งในรูปแบบที่มองเห็นได้ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิเกินค่าที่กำหนด โดยไม่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ และยังสามารถอ่านสถานะแบบดิจิทัลได้แบบไร้สาย โดยใช้เครื่องอ่าน RFID หรือสมาร์ทโฟนที่มีระบบ NFC หรือ ผ่านการแสกน QR code ผ่านแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า Thermotrace
คำถาม
DTI ทำงานได้อย่างไร?
คำตอบ
DTI ใช้ทำงานได้โดยวัสดุที่ตอบสนองต่ออุณหภูมิ ซึ่งจะเปลี่ยนสีและคุณสมบัติทางไฟฟ้าอย่างถาวรเมื่อถึงอุณหภูมิที่กำหนด การทำงานของเซนเซอร์นี้ไม่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่
การเปลี่ยนสีช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบสถานะได้ด้วยสายตาเปล่า ขณะเดียวกันการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติทางไฟฟ้าก็สามารถอ่านและส่งข้อมูลแบบไร้สายผ่าน เครื่องอ่าน RFID หรือโทรศัพท์มือถือที่รองรับ NFC หรือสแกน QR code ซึ่งการส่งผ่านข้อมูลด้วยเทคโนโลยี RFID ยังช่วยให้สามารถอ่านค่าได้หลายค่าพร้อมกัน
เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสถานะของ DTI นั้นเป็นแบบถาวร จึงมีคุณสมบัติคล้ายกับหน่วยความจำ เมื่ออุณหภูมิสูงเกินจุดวิกฤต DTI จะแสดงให้เห็นว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นแล้ว แม้อุณหภูมิจะกลับสู่ภาวะปกติก็ตาม
คำถาม
DTI แตกต่างจาก RFID ที่มีเซนเซอร์วัดอุณหภูมิในตัวอย่างไร?
คำตอบ
DTI สามารถติดตามอุณหภูมิได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในขณะที่ไม่ได้ถูกอ่านค่าด้วยเครื่องอ่าน RFID ก็ตาม ทำงานโดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่
คุณสมบัติการทำงานนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการติดตามสถานะอุณหภูมิตลอดห่วงโซ่อุปทานหรือระบบโลจิสติกส์ ตั้งแต่จุดผลิตไปจนถึงมือผู้ใช้งานปลายทาง
คุณสมบัติเดียวกันนี้ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการตรวจสอบอุณหภูมิของอุปกรณ์เพื่อการบำรุงรักษาเชิงป้องกันในโรงงานอุตสาหกรรมได้อีกด้วย เนื่องจากวิธีการตรวจสอบแบบเดิม โดยใช้ Thermal Scanner เพียงอย่างเดียว อาจพลาดการตรวจจับอุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้นในระหว่างช่วงการทำงานสูงสุด
สำหรับ RFID ที่มีเซนเซอร์วัดอุณหภูมิในตัว การวัดค่าอุณหภูมิจะทำได้เฉพาะเมื่อแท็กได้รับพลังงานจากแบตเตอรี่ หรือเครื่องอ่านสัญญาณ RF เท่านั้น
คำถาม
DTI แตกต่างจาก Time-Temp Indicator หรือ TTI อย่างไร?
คำตอบ
DTI ให้การแสดงผลสถานะทั้งแบบเปลี่ยนสีและแบบดิจิทัล การอ่านสถานะดิจิทัลแบบไร้สายด้วย RFID ช่วยให้สามารถรวบรวมข้อมูลจากแท็กจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วพร้อมกัน และสามารถเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับระบบ IT ได้อย่างราบรื่น
ส่วน TTI ให้การแสดงผลด้วยการเปลี่ยนสีเพียงอย่างเดียว ทำให้ต้องตรวจด้วยตนเองทีละชิ้น
